วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Journey to the toilet in China part 1ท่องไปตามห้องส้วมเมืองจีน ตอนที่ 1

ในที่สุดก็มาถึงวันนี้จนได้ วันที่สุดยอดแห่งห้องน้ำในตำนานที่ใครๆเขาก็กริ่นเกรงกันหนักหนาได้เผยโฉมออกมาให้ทุกคนได้ยล 

Journey to the toilet in China
ท่องไปตามห้องส้วมเมืองจีน

เรื่องนี้เขียนขึ้นเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่จะไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ. ภาพและเนื้อหาบางอย่างเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์ ผู้ที่ขวัญอ่อน อ่อนไหวในเรื่องนี้โปรดพิจารณาก่อนอ่านชม ภาพบางภาพอาจมีการปรับแต่งลดสีเพื่อความเหมาะสม
 

เรื่องราวห้องน้ำจากเมืองจีนนั้นเป็นที่กล่าวขานถึงความสยดสยองพองขนจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ได้ยิน จนไม่กล้าย่างกลายไปเยี่ยมเยือน โดยเฉพาะญาติในชนบท บัดนี้ในฐานะที่ผมเป็นผู้เชี่ยวในการท่องเที่ยวไปตามห้องน้ำ การขาดภาพและเรื่องห้องน้ำที่เมืองจีนก็คงไม่ใช่ตัวจริงเรื่องห้องน้ำ
ก่อนเข้าเรื่องปัจจุบันขอเล่าตัวอย่างเรื่องของคนใกล้ตัวที่เคยประสบมาเป็น ออเดริฟ ก่อน. อาม้าผมเอง

"ตอนไปเที่ยว จิ่วจ้ายโกว(Jiuzhaigou 九寨沟) นะเขาเป็ห่วงคนแก่กลัวจะเป็นลม เลยให้ซื้อ ออกซิเจน เผื่อไว้ว่าขึ้นไปที่สูงขาดอากาศหายใจจะได้ใช้ ที่ไหนได้ ไม่ได้ใช้เลย จนลงมาข้างล่าง งานเข้า! ข้าศึกโจมตีปวดจะต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ เดินเข้าไปถึงกับผงะ เพราะทุกห้องมีอึที่คนถ่ายไว้ทับทมกันเป็นกองใหญ่ แต่ด้วยความปวดมากไม่ไหวแล้ว อาม้าเลยหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเสร็จๆไป และออกซิเจนที่ซื้อไว้ก็ไม่เสียเงินเปล่าได้ใช้ก็อีตอนเข้าห้องน้ำนี่ล่ะ 555555 "

อาม้าหัวเราะอย่างอร่อย พร้อมทั้งสำทับว่า อย่าไปเที่ยวในวันชาติจีนเด็ดขาดเพราะคนจะเยอะมาก แต่โซ้ยกิ๋ม(น้าสะใภ้)ที่ได้ฟังเรื่องกลับตลกไม่ออก แทบจะอ้วกออกมา ภาพแห่งความทรงจำในอดีตที่โซ้ยกิ๋มเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกันลอยขึ้นมา

คราวนั้นโซ้ยกิมซึ่งเป็นคนไทยแท้ติดตามโซ้ยกู๋ ไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน นั่งเครื่องบินไปลงฮ่องกงแล้วต่อเรือและรถเข้าซัวเถา บ้านญาติก็ยังห่างจากเมืองซัวเถาอีกหลายร้อยโล ไม่ถึงเสียทีโซ้ยกิ๋มปวดฉี่มากเมื่อเจอห้องน้ำสาธารณะ เลยร้องขอให้จอดรถ รีบวิ่งเข้าไปห้องน้ำ เมื่อเห็นถึงกับฉี่หดหมดเลย เพราะที่เห็นถึงขั้นหนอนขึ้นยั้วเยี้ย

ในทริปนี้คณะเราขึ้นเครื่องบินสายการบิน China Southern Airlines ขณะขึ้นเครื่องขาไป อาม้า(เจ้าเก่า)ก็เจอเหตุการณ์ประเดิมจนได้ อุตส่าห์ได้สิทธิของการเป็นคนแก่ขาไม่ดีได้นั่งที่หน้าๆติดกับชั้น bussiness class นึกกระหยิ่มยิ้มย่องได้เข้าห้องน้ำด้านหน้าของชั้นธุรกิจเขา ไม่ต้องเดินไกล อาม้ารอหน้าห้องน้ำอยู่นานพอควร ชายหนุ่มก็ไม่แก่เท่าไหร่ แต่งตัวดีก็ออกจากห้องน้ำมา พร้อมหลบหลีกหนีไปอย่างรวดเร็ว อาม้าเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ !?!!! กองโตอยู่ตรงหน้า เพราะเขาคงกดน้ำไม่เป็นซ้ำยังไม่รู้ที่ทิ้งกระดาษ ทิ้งเกลื่อนที่พื้นนั่น. แต่คราวนี้ยังดีที่มีปุ่มให้กดล้าง ไม่ต้องไปปล่อยทับถมกับคนอื่นแบบที่เคยโดนมา เฮ้อ.....

ตามประสาคนรอบคอบ ต้องก่อนไปก็ลองหาภาพทางอินเตอร์เนตดูสิว่า "จะรับได้ไหม ถ้าถึงวันนั้น......"



เอ่อ........ถ้าเจอแบบนี้จริงๆ คงยากรับมือแฮะ

จริงๆมีอีกภาพที่ตอนแรกจะเอารูปมาลงคู่กันแต่ก็ตัดสินใจตัดออก เพราะมันเกินจะรับ

แม้บรรดาผู้ใหญ่ชาวจีนชอบบอกว่ามาจากซัวเถา แต่พอมาถึงจริงๆ จากสนามบินตัวเมืองซัวเถาต้องนั่งรถเก่าแก่ต่อเข้าไปยังอำเภออีกไกล รถเก่าแก่ที่ว่าเป็นของอาเฮียบู๋ลิ้ม และอาเฮียเอี้ยงลิ้ม (ที่มีศักดิ์ญาติผู้พี่ของผมเอง) รถเก่าแก่ยังไม่หนำเท่าการปราศจาก แอร์คอนดิชั่น มีแต่แอร์ธรรมชาติและฝุ่น ที่รถต้องเก่าแก่เขาบอกว่า กลัวโดนปล้น ผ่านไปร่วมสองชั่วโมงเราก็มาถึง “โผวเล้ง” ตอนค่ำจึงมาถึงโรงแรมที่เรามาพักชื่อ Rung Hua Hotel. ในย่านที่เรียกว่า หมี่โอว นี่คาดว่าจะเป็นระดับตัวอำเภอ หรือตำบล ซึ่งผมก็ได้เตรียมใจมาแล้วว่าสภาพห้องน้ำของโรงแรมระดับนี้คงไม่น่าอภิรมย์ ด้วยก่อนมาได้ลองหาข้อมูลทาง net พบคนที่เคยมาประสบกับห้องน้ำฝันร้ายในโรงแรมท้องถิ่น ตามรูป ส่วนรายละเอียดความสยองเชิญตามไปอ่านเอาเองได้ที่นี่ครับ http://www.oknation.net/blog/gogodreamer/2010/08/20/entry-1



แต่พอมาถึงกลับ “ผิดคาดนะคร้าบ..บบบ ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย”





แต่.........กระดาษชำระ ไม่มีให้นะ หาเตรียมมาเอาเอง แต่ก็ใช้ได้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีให้ครบ ทั้งสบู่ แชมพู ส่วนซองสีฟ้าๆแดงๆ ที่อยู่มุมเคาน์เตอร์ลิบๆนั่น อย่าไปแตะเชียว ไว้จะเล่าให้ฟังทีหลัง

เสียงอาม้าลอยมา.....
"ก็แหงล่ะซี ม้ามาเป็นหนูทดลองหลายรอบ จนเชี่ยวแล้ว รู้ไหมคราวที่แล้วน่ะ เฮียบู๋ลิ้มพาม้าไปนอนโรงแรมจิ้งหรีด ยุงกัดแทบตาย น้ำอาบต้องไปตักจากโอ่ง "

ตื่นมาตอนเช้า ก็มีแมลงสาบมานอนต้อนรับกลางทางเดิน ระยะทำการ



วันที่สอง คณะเราชาวเสียมล้อ(สยาม)ก็ได้ไปเยี่ยม “อาเหล่ากู๋” มีศักดิ์เป็นน้าชายของอาม้า
อาเหล่ากู๋อยู่ในหมู่บ้าน “โผวเล้งตั่วป่า” รถยนต์เข้าไม่ถึง เหล่าผู้เฒ่าต้องพากันเดินเท้าเข้าไป ในภาพอาเหล่ากู๋แม้จะแก่กว่าแต่ต้องมาจูง อากิ๋ม หลานสะไภ้ ที่อยู่ดีกินดีจากเมืองไทย



บ้านในหมู่บ้านนี้จะสร้างเหมือนกันหมด ตั้งแต่สมัยเป็นร้อยปีก่อน แม้ลูกหลานแยกครอบครัวมาสร้างบ้านใหม่ก็จะสร้างทรงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง



เข้าในบ้าน สิ่งแรกที่สอดส่ายหาดูก่อน เจอแล้วขวามือ “ห้องน้ำ”



รู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่เจอห้องน้ำโหดๆ Hardcore แบบที่หวัง อาม้าว่าบ้านอาเหล่ากู๋ นี่จัดว่าพัฒนาแล้วเพราะมีญาติจากเมืองไทยมาสร้างห้องน้ำให้ ขนาดมีโถชักโครกด้วย แต่คนที่นี่ใช้กันไม่เป็นอ้างว่าท่อตัน จึงเปลี่ยนเป็นนั่งยองภายหลัง



ลองเดินข้ามไปบ้านลูกชายอาเหล่ากู๋ที่อยู่ใกล้ๆกัน วันนี้เป็นวันดีเขากำลังเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่พอดี เป็นบ้านทรงเดียวกับอาเหล่ากู๋เปี๊ยบ แต่ใหม่กว่าเท่านั้น

ห้องน้ำยิ่งใหม่กิ๊กเลย ส่วนอีกรูปคือห้องครัว แม้จะถึงขั้นมี Hood เครื่องดูดควันใช้กันแล้ว แต่ก็ยังต้องคงมีเตาเผาฟืนใช้อยู่ ถ้าได้ห้องน้ำแค่นี้คงเสียเที่ยวเป็นแน่จึงผมจึงรบเร้าให้อาเหล่ากู๋พาไปบ้านเก่าร่วมร้อยปีที่ อาหวั่วม่า(ยาย)เกิดและอยู่อาศัยก่อนอพยพไปประเทศไทย โปรดติดตามตอนต่อไป


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น