วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Missing Area มุมแหว่ง

 

Missing Area มุมแหว่ง

Shape ที่ฮวงจุ้ยโปรดที่สุดคือ จำพวกสี่เหลี่ยมสมมาตรครับ

และ Shape ที่ฮวงจุ้ยไม่ปลื้มคือ. รูปทรงที่แหว่ง

Cafe ชื่อดังในห้างกลางเมืองนี้ มีมุมแหว่งที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ NW

ซึ่งถือว่าเป็นทิศพ่อ เพศชาย ปีจอ,กุน

 

ตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าของร้านเป็นเกย์ และเป็นทิศไม่ดีของเขาอยู่แล้ว จะไม่แก้ก็ได้

แต่พอดีมีหุ้นส่วนอีกสองคน ปีกุน (Pig) ทั้งคู่ ไม่แก้ไม่ได้เด็ดขาด

 

วิธีแก้ก็คือ ปักปันอาณาเขตตรงมุมแหว่ง ให้เสมือนเป็นพื้นที่ของร้านเราซะ

โดยการเอาสิ่งของของร้านเราไปวางแสดงอาณาเขต

 

วิธีที่ง่ายและเนียนที่สุดคือ เอาแท่นต้นไม้ไปวาง

แต่ถ้าขอทางห้างได้ก็ทำเป็นแนวกระถางต้นไม้(Plant box) เติมมุมให้เต็มตามรูปที่2 แบบนี้ Perfect!

 

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Threesome เลือกวัตถุทีเดียวสามชิ้น

 

Threesome เลือกวัตถุทีเดียวสามชิ้น

กำลังจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ส่งลูกค้าด้วยแอพฯ Keynote ครับ

สามารถ Copy ภาพ Text คำว่า Set1. Set2. Set3 พร้อมๆกันแม้จะอยู่ห่างกันด้วยการ แตะนิ้วแตะค้างที่ Set1 แล้วใช้อีกนิ้วไปแตะที่ Set2 และ 3 ก็สามารถเลือกวัตถุรวดเดียวได้ทีละ 3 หรือมากกว่า เพื่อไปวางไว้ในหน้าอื่นๆ

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Return to flickr กลับใจไปใช้ flickr

 

Return to flickr กลับใจไปใช้ flickr

 

ภาพนี้ผมกำลัง Upload รูปผลงานสองร้อยกว่ารูปขึ้น flickr จาก.iMac ครับ

flickr เป็นบริการฝากรูปออนไลน์จากค่าย Yahoo

ได้รับความนิยมจากบรรดาช่างภาพมืออาชีพอย่างมาก

แต่ช่างไม่เหมาะกับพวกเราชาว iPad เสียเลย

เพราะเขี้ยวจำกัดการแสดงรูปแค่ 200 รูป แม้จะให้พื้นที่แบบไม่จำกัด แต่มันจะมีประโยชน์อะไรเมื่อมาจำกัดการดู

ถ้าให้ดีมากๆแบบ Unlimited ต้องเสียเงิน ซึ่งแน่นอนมีเจ้าอื่นให้เลือกใช้ได้ฟรี ผมจึงไปใช้ประจำอยู่ที่

 

Picasa จากค่าย Google

 

หลังจาก Google Drive เจ้านาย Picasa ใจดีประกาศเพิ่มพื้นที่ให้ฟรีๆ บัญชีละ 15 GB

flickr ก็เกิดบ้าเลือดขึ้นมา ประกาศยกเลิกจำกัดการแสดงรูปแค่ 200 รูป อยากจะดูรูปเท่าไหร่ดูไปเลยและให้พื้นที่เก็บรูปถึง. 1TB

 

1 TB เท่ากับ 1,000 GB !!!!!!!!!!!

 

ยั่งยวนขนาดนี้ผมคงต้องกลับมาใช้ flickr ซะแล้ว แต่จะทดแทน Picasa แบบเบ็ดเสร็จหรือไม่คงต้องดูกันยาวๆ

 

โปรแกรม flickr uploadr มีให้ใช้ทั้ง window และ Mac ครับ ตามไปโหลดฟรีได้ที่

 

http://www.flickr.com/tools/

 

ส่วนเรื่องเราจะใช้แอพฯอะไรดีในการสอยรูปนับร้อยนับหมื่น มา Present หรือ Referene ให้ลูกค้าดูผ่าน iPad นั้น รอตอนหน้าครับ

 

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ร้อยเขียนแผนที่ไม่เท่า หนึ่งภาพดาวเทียม

 

ร้อยเขียนแผนที่ไม่เท่า หนึ่งภาพดาวเทียม

 

ด้านซ้ายคือแผนที่ที่เจ๊กวง(เพื่อนสนิท)อุตส่าห์เขียนส่งมาประกอบการดูฮวงจุ้ย........คงใช้เวลาน่าดู

ถ้าเจ๊รู้จักใช้ Google หรือ Apple Map ถ่ายรูปหน้าจอส่งมาก็จบงาน รู้เรื่อง ใช้เวลาแป๊บเดียว(ตามภาพขวา)

 

ที่สำคัญเจ้าแผนที่ดาวเทียมนี้ถูกต้องทั้งระยะ ขนาด ตำแหน่ง และทิศทางอีกด้วย

 

นี่แหละหนาคนยุคก่อนประวัติศาตร์ต้องเสียเปรียบคนยุค Smart phone & Tablet อยู่ร่ำไป

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Last train รถไฟขบวนสุดท้ายของการเรียนรู้และท่องโลก

 

บางที....อาจจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของการเรียนรู้และท่องโลก

 

ผมและ Admin ตี้ หายไปจากโลกการทำงานเพื่อไปวิปัสสนาสิบกว่าวัน ต่อจากนั้นเราก็ไปเที่ยวเกาหลีกันอีกห้าวัน กลับมาไม่เท่าไหร่ ผมก็ไปอินเดียอีกหลายวัน

 

มีคนสงสัยว่าไม่ทำงานทำการหรือไง

 

ตอนเด็ก มีเวลา มีแรง ไม่มีเงิน...

พอโตมา มีแรง มีเงิน ไม่มีเวลา...

ยามแก่ชรา มีเวลา มีเงิน แต่ไม่มีแรง...


ตอนนี้เรา maximize "เงินในกระเป๋า" ได้มากพอสมควรแล้ว

น่าจะถึงเวลาที่เรา optimize "ความสุขที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตที่เหลือได้แล้ว"

 

ด้วยวัยที่ขึ้นหลักสี่ นี่อาจจะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายที่เราจะเรียนรู้ทุกสิ่ง

เรียนรู้ศาสตร์ใหม่ๆเช่น การวิปัสสนา ซึ่งแต่เดิมเชื่อว่าไว้รอแก่ก่อน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ายิ่งแก่ทักษะการเรียนรู้ทุกศาสตร์จะถอยลง

เรียนรู้การไปท่องโลกแบบ Backpacks ไปเองไม่ง้อทัวร์ ทัั้งเกาหลีและอินเดียไปกันเอง แน่นอนแก่กว่านี้คงไม่ไหว

 

ถ้าแก่กว่านี้รูปที่ถ่ายออกมาเราทั้งคู่คงไม่่หล่อ เท่ อย่างในรูปนี้เป็นแน่ (ตอนนี้ก็เริ่มเหี่ยว พุงเริ่มออกแล้ว 555)

 

เห็นผมและแอดมินตี้ ทำแบบนี้ เพื่อนๆร่วมอาชีพเลยเอามั่ง "เจ๊กวง"เพื่อนสนิท ไปท่องยุโรบเองหลายสัปดาห์ เพิ่งกลับมาก็เข้าวิปัสสนาต่อทันทีสิบกว่าวัน

 

ตอนนี้ผมเริ่มเห็นว่าอาชีพอย่างเรานี่มันดีตรงนี้เอง หลายอาชีพทำไม่ได้นะเนี่ย

 

ปล. สำนวน maximize "เงินในกระเป๋า"กับ optimize "ความสุขที่เกิดขึ้น" ผมนำมาจากเพจนี้ครับ

 

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=454569191310072&set=a.163584947075166.25005.163576530409341&type=1&relevant_count=1&ref=nf

 

 

ส่วน Handbill สวยๆทำมาจากแอพฯ InstaMag ครับ

 

 

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Fengshui Props พระอุปคุต และ ไตรภาคีไก่

Props ของตกแต่งทางฮวงจุ้ยที่ภรรยาผมเป็นคนจัดวาง และให้ความสำคัญมาก

ซึ่งผมกลับเฉยๆ เพราะชอบศึกษาฮวงจุ้ยเกี่ยวกับ Space ,Form และชัยภูมิมากกว่า

แต่เรื่อง Props ของตกแต่งนี้จะมองข้ามไปไม่ได้เพราะในด้านการตกแต่งภายในนั้นมีผลต่อจิตวิทยาของลูกค้ามาก

 

Props ในภาพนี้ประกอบด้วย

 

1.พระอุปคุต ที่มีรูปทรงที่แปลกจากพระอื่นๆ ปางจกบาตรแหงนหน้ามองพระอาทิตย์

แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และมี Power สูงมาก

2.ถาดที่รองพระ เป็นรูป ไก่ฟ้า (ภรรยาผมเกิดปีไก่)

3.เซรามิคสีขาว รูปทรง วัว(หันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ) ไก่(หันไปตะวันตก) งูเล็ก(หันไปทางตะวันออกเฉียงใต้. และม้า (หันไปทางทิศใต้). จัดตั้งเป็น ไตรภาคี กันกับปีไก่ บวกกับม้าบริวาร

แสดงถึงการสมัครสมานสามัคคีกัน ร่วมกันทำงาน และไม่มีใครสู้ได้

4.พัดลมกังหันจากวัดแชกงหมิว ซึ่งถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ประจำฮ่องกง ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีพลังแห่งการค้าขายสูงมาก

 

งวดนี้ Crop มาแค่นี้ก่อนครับ ที่จริงมีอีกเยอะ จัดเต็มตามประสาผู้หญิงครับ

 

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Handbill from Korea โดย iPad

 

Handbill from Korea โดย iPad

ปกตินิสัยผมหลังกลับจากท่องเที่ยวแล้ว จะรวบรวมรูปมาจัดเป็น Handbill หน้าอัลบัมรูปสวย

ทุกทีมักใช้แอพฯ Keynote แต่กลับจากจากเกาหลีงวดนี้ผมใช้.....

Handbill สามแผ่นนี้ผมทำจากแอพฯ instamag ใน iPad ครับ ที่เยี่ยมคือเป็นแอพฯ ฟรีๆๆๆๆ

https://itunes.apple.com/th/app/instamag-magazine-collage/id615187629?mt=8

 

แอพฯนี้ใช้ง่ายมาก สามารถนำรูปหลายรูปเข้าไปจัดเป็นหน้า Handbill ได้เร็วและสวยที่สุด

ถ้าเบื่อแบบเดิมๆแล้ว ยังสามารถ Download รูปแบบการจัดรูปใหม่ๆ จาก Library ในแอพฯได้ด้วย

เมื่อมีข้อดีที่ง่ายเร็ว สวย ย่อมมีข้อเสียที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากนัก นอกจากสลับรูป หรือเติมตัวอักษรตามกรอบที่แอพฯกำหนดมา และเนื่องจากเป็นแอพฯฟรีจึงมีโลโก้ลายน้ำ instamag ติดมาที่หน้า Handbill ด้วย

 

แต่โดยรวมถือว่ายอดเยี่ยม เอาไปเลย 5 ดาวเต็ม

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Why Vipassana? 2 อุเบกขา Equanimity

 

Why Vipassana? 2 อุเบกขา Equanimity


คุณพี่สุจินดา แฟนเพจท่านหนึ่งถามมาครับ

 

"อาจารย์สละรายได้ 10 กว่า Man-day เพื่อไปวิปัสสนากรรมฐานอาจารย์ใช้อะไรเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจค่ะ และอาจารย์ Proof of concept กับการวิปัสสนากรรรมฐานอะไรบ้างค่ะ?"

 

สวัสดีครับ ผมไปเพราะเคยสงสัยหลายเรื่อง แต่บางเรื่องเราไม่สามารถรู้ได้เลยถ้าเราไม่ปฎิบัติ เปรียบเหมือนการออกกำลังกายนั่นแหละครับ เราต้องออกด้วยตัวเองจึงจะรู้

เมื่อตัดสินใจจะไปก็เกิดสงสัยอีกว่า ทำไมตั้ง 10 วัน 5วัน 7 วันไม่ได้หรือ แล้วทำไมโปรแกรมโหดขนาดนี้ นั่งตั้งแต่ตีสี่ครึ่งถึงสามทุ่ม นั่งอย่างเดียวไม่มีเดินจงกรมเลย

 

หลังจากไปแล้วจึงกระจ่างทันทีว่า ต่ำกว่า 10 วันไม่ได้

 

เวลาเราออกกำลังกายถ้าให้ผลดี เราต้องออกกำลังจนถึงจุด Peak หัวใจเราจะเต้นเร็วกว่า 120 ครั้งต่อนาที เลือดจะสูบฉีดไปทั่วร่างกาย และร่างกายเราจะหลั่งสาร Endorphins สารแห่งความสุข

 

การนั่งวิปัสสนาก็เหมือนกับการ "ออกกำลังจิต" เราต้องออกกำลังจิตให้ถึงจุด Peak จุดเดือด

ต่ำกว่า 10 วันหรือ เดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวเดิน เดี๋ยวคุย เราจะไปไม่จุด "อุเบกขา"

 

อุเบกขา คือ การวางเฉย ไม่โต้ตอบต่อสิ่งเร้าที่มากระทบกับเรา ผู้ที่ทำเช่นนั้นได้ก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง คือไม่ทุกข์ ไม่สุขอีกแล้ว

 

ผมเคยได้ยินได้อ่านคำนี้มานาน เพิ่งมาเข้าใจตอนที่นั่งปฎิบัติ 10 วันนั่นแหละ เพราะเรานั่งแค่สามวัน ทั้งร่างกายและจิตใจก็ถึงจุดเดือดพล่านๆ

 

"ทนไม่ไหวแล้วโว้ย" แต่เมื่อพบว่า ทนไม่ไหวแล้วจะให้ทำไง กระเป๋าเงิน กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือก็ถูกยึดไปหมด(เขาบังคับให้ฝากไว้ก่อนเข้าหลักสูตร) ในที่สุดก็ต้องทนปฎิบัติต่อ ก็ทำไงได้เหลืออีกตั้ง 7 วัน คิดได้ดังนั้น ความอุเบกขา ก็เกิดขึ้น

 

พอถึงวันที่ 4 ก็สามารถนั่งได้เฉย แม้เสียงอาจารย์จะประกาศว่า "วันนี้เราจะเริ่ม วิปัสสนา ขอให้พวกท่านอธิษฐานจิต ว่าจะไม่เปลี่ยนท่านั่ง เฉกเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าอธิษฐานจิตใต้ต้นโพธิ์ว่าจะไม่เปลี่ยนท่านั่งอีกเลย ถ้าไม่บรรลุธรรม"

 

เอาเข้าจริงเราก็สามารถทำได้ นั่งนิ่งไม่เปลี่ยนท่าเลยเป็นชั่วโมงๆ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ

 

"แล้วความเจ็บปวดขา หลัง เบื่อหน่าย มันหายไปไหนล่ะ?"

 

มันก็ยังอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละครับ แต่เราก็แค่รับรู้ อ้อ! นี่ขาชา นี่เจ็บหลัง แล้วไง? ไม่ยินดียินร้ายหรือทุกข์ร้อนกับมันเท่าไหร่ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ต้องอยู่อีกตั้งหลายวันอยู่แล้ว

 

นี่ไง รสชาติของ "ความอุเบกขา" ร่างกายหลั่งสาร Endorphins ออกมา

 

ถ้ามาปฎิบัติแค่ ห้าวัน เจ็ดวัน คงไม่รู้รสอุเบกขา เพราะเราจะคิดว่า โอ้! อีกแค่สองสามวันเราก็ได้กลับบ้านแล้ว เราจะตื่นเต้น ความอุเบกขาก็จะสิ้นสุดลงทันทีครับ

 

ความอุเบกขาเป็นเพียงข้อหนึ่ง ยังมีอีกหลายข้อที่ผมเพิ่งรู้ จะทยอยมาบอกนะครับ


เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

Why Vipassana ทำไม วิปัสสนา? http://bit.ly/1fzapft