ไอแพดการ์ตูน ตอน 4 iPad Cartoon 4

ไอแพดการ์ตูน ตอน 4 iPad Cartoon 4 หลังจากโดนระเบิดปราณมนูการ์ตูนไป พิเรน ถึงกับยกธงขาวยอมแพ้ ขอสงบศึกด้วยเหตุผลที่ว่า "กรูไม่มีเวลาว่างมานั่งเขียน วาดเรื่องไร้สาระหรอก ถ้ามรึงว่างนัก ก็วาดไปคนเดียว" แหมๆ คิดว่ามาปลุกยักษ์หลับ (เหมือนญี่ปุ่นโจมตี pearl harbor ปลุกยักษ์หลับอเมริกา) แล้วจะชิ่งหนีได้ง่ายๆเรอะ ไม่มันส์เลย ยังไงต้องมีต่อ ก่อนที่จะไปต่อ ขอบอกแอพฯที่ผมใช้ในการวาดการ์ตูนก่อน เดี๋ยวลืม Sketch Club http://itunes.apple.com/th/app/sketch-club/id404414176?mt=8 แอพฯนี้เป็นแอพฯเล็กๆ ไม่เด่นดังแบบค่ายใหญ่ๆ แม้ในแอพฯสโตร์จะได้ 5 ดาวเต็ม แต่มีคนมาโหวตแค่ 8 คนเองน้อยมากทั้งที่ออกมานานแล้ว แสดงว่าไม่ดัง และใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น จะเห็นได้ว่าแอพฯนี้มีเลเยอร์ให้ใช้เพียง 5 เลเยอร์เท่านั้น น้อยกว่า ArtStudio ที่ให้ 6 เลเยอร์ และไม่ต้องไปเทียบกับ SketchBook Pro ที่ให้ถึง 12 เลเยอร์(ใน iPad 1 จะได้ 6 เลเยอร์เนื่องจากหัวสมองช้ากว่า iPad2) แล้วทำไมผมถึงใช้เจ้าแอพฯนี้ล่ะ ขอบอกปริศนาคำตอบนี้ในตอนหน้านะครับ ตอนนี้ขอเกริ่นเรื่องพื้นๆของการวาดการ์ตูนก่อน หลายเดือนก่อน ระหว่างที่ไปค้นกองสมุด ผมไปเจอการ์ตูนที่ลูกผมเจ้าเตาผิงวาดไว้ เย็บเล่มเรียบร้อย มีสารบัญเสียด้วย ก็นึกขำ และนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆก็เคยวาดการ์ตูนช่องเก็บไว้เหมือนกัน เชื่อไหมในส่วนลึกๆของพวกเราทั้งเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิง อยากจะวาดการ์ตูนเป็นช่องๆ หรือการ์ตูนล้อเลียนกันทั้งนั้น แต่มันยาก ถ้าไม่มีหัวทางศิลป์ หรือเรียนมาด้านนี้ แทนที่จะเป็นการ์ตูนล้อเลียนเพื่อน เป็นได้โดนเพื่อนล้อเลียนกลับ จึงต้องเก็บไว้ในลิ้นชักส่วนลึกของความอยากมานาน และแล้ว การถือกำเนิดของ iPad ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป ฝีมือบ้านๆอย่างเราได้ชูคอเดินถนนกับเขาซักที จุดสลบของนักวาดการ์ตูนมือใหม่ การกะขนาดสัดส่วนของใบหน้า นับเป็นทักษะสำคัญ ปราการด่านแรกที่ ทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้เรียน หรือมีหัวทางศิลป์ ถึงกับถอยฉาก การ์ตูนที่วาดออกมาจึงไม่เหมือน แต่การ วาดการ์ตูนใน iPad ช่วยตัดทักษะการกะขนาดสัดส่วนออกไป เพราะสามารถซ้อนรูปต้นฉบับลงไปได้ ท่านก็เพียงใช้นิ้วลากไปตามโครงหน้าของต้นฉบับจริง การลงแสงเงา นับเป็นปราการด่านที่สอง ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับ การ์ตูนเลยเท่าไหร่ ถ้าท่านยังไม่มั่นใจ จะวาดแบบลายเส้นแล้วลงสีพื้นโดยไม่ลงแสงเงาก็ยังทำได้ เมื่อวาดบ่อยจนมั่นใจขึ้นก็ค่อยๆหัดลงแสงเงาเริ่มจากน้อยไปหามาก อีกเรื่องหนึ่งคือ การผสมสี นับว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ตั้งแต่การเตรียมแม่สี ถึงมีแม้สีครบ แล้วก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดีว่าจะผสมอย่างไรให้เหมือนผิวคน และผิวแต่ละคนก็ให้อารมณ์ที่ต่างกัน ผิว แบบคนเซอร์ๆ ผิวแบบน่ารักจุ๋มจิ๋ม ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้ประสบการณ์และทักษะพอสมควร แต่การเขียน การ์ตูนบน iPad แทบจะตัดทักษะและความยุ่งยากขั้นนี้ออกไปเลย เพราะมีหลอดจุ่มสี เพียงแค่แตะ หลอดไปจุ่มที่ผิวเนื้อของภาพต้นฉบับก็ได้สีผิวของเขาแล้ว ส่วนสว่างก็แตะจุ่มจุดสว่าง ส่วนเข้มก็แตะ จุ่มจุดเข้ม ถ้าไม่พอใจผิวของตัวเอง จะจุ่มสีผิวของดาราเกาหลีก็ทำได้ง่ายมาก แค่แตะนำเข้าภาพ จุดที่ iPad ทำให้มือใหม่เหนือกว่า การออกนอกภาพต้นฉบับ เช่นภาพคนต้นฉบับผมสั้น แต่ภาพการ์ตูนอยากได้ผมยาว ภาพต้นฉบับผอมแห้ง แต่ภาพการ์ตูนอยากได้กล้ามใหญ่ อย่าลืมสิครับการวาดการ์ตูนคือการล้อ เลียน ดังนั้นกรณีแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อย ล้อเลียนแผลงๆ จุดนี้ถือเป็นจุดสลบของมือใหม่อย่างแท้จริง เพราะต้องใช้ทักษะที่สูงขึ้นไปอีก แต่การเขียนการ์ตูนใน iPad ก็บ่ยั่นอีกเช่นเคย เพราะสามารถนำ เข้าผมยาวของดารา นำเข้ามัดกล้ามของนายแบบเข้ามาในเลเยอร์อย่างง่ายดาย หลังจากภาพนี้เผยแพร่ไปใน Facebook เพื่อนๆฮากันขี้แตก เพราะผมวาดการ์ตูนตัวเองใส่ลงไปด้วย หลังจากที่คุณพิเรนเริ่มฉุนเพราะผมจัดหนัก เอาการ์ตูนหน้าเขาไปล้อเลียนชุดใหญ่(เดี๋ยวจะทยอยเอารูปมาให้ชมในตอนต่อๆไป) พิเรนมันเลยโพสทำนองต่อว่าต่อขาน "ทำไมไม่วาดล้อเลียนตัวเองบ้างวะ" ต่อครับ และมีอีกจุดหนึ่งที่ทำให้นักวาดการ์ตูนใน iPad ทำงานได้รวดเร็ว เหนือกว่าการวาดการ์ตูนแบบโลกเก่าคือ วาดครั้งเดียวแต่สามารถนำมาใช้ได้หลายครั้ง หลายคน ไม่ต้องเสียเวลาวาดใหม่ เช่นรูป ข้างบนนี้ วาดทีเดียวได้สามคน แต่สีผิวหน้าไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาปรับสีผิวหน้าหน่อยก็ดีครับ

iPad Cartoon 5 ไอแพดการ์ตูน ตอน 5 ธาตุแท้ของพิเรน

iPad Cartoon 5 ไอแพดการ์ตูน ตอน 5 ธาตุแท้ของพิเรน ตอนนี้เขียนขึ้นขณะลี้ภัยน้ำท่วมมาอยู่นอกบ้าน ส่วนนายพิเรนคู่ปรับของผมนั้นได้ลี้ภัยน้ำท่วมไปอยู่สงขลาบ้านเกิดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก่อนไปนายพิเรนได้หอบเอา iMac จอยี่สิบกว่านิ้วพร้อมทั้งอุปกรณ์พะรุงพะรังมาฝากผมไว้ด้วย เพราะเห็นว่าสถานที่ที่ผมลี้ภัยมาอยู่นั้นอยู่สูงคู่ควรกับการปกป้องเจ้า iMac ลูกรักแสนแพงให้พ้นจากภัยน้ำครั้งรุนแรงนี้ได้ "อ้าว แล้วชุดเครื่อง PC จอใหญ่ไม่เอามาด้วยเรอะ" ผมท้วงเพราะเห็นว่าพิเรนภูมิใจหนักหนากับ Work Space ของตัวเองที่มีทั้ง PC จอใหญ่และ iMac จอใหญ่วางอยู่เคียงข้างกัน ถึงกับไปโพสโชว์ใน Facebook ก็อย่างที่บอกในตอนก่อนๆ พิเรนเขาเชี่ยวคอมพิวเตอร์มาก ทั้งค่าย PC และค่าย Mac ครั้งหนึ่งผมเผลอไปวิจารณ์ Windows PC หน่อยเดียว แกซัดผมกลับมาชุดใหญ่ และแน่นอนผมต้องจ๋อย เพราะเรามันรู้แค่ฝั่ง Mac อย่างเดียว ซ้ำยังรู้น้อยอีก "เอาไปเก็บบนชั้นสองแล้ว จะเอามาหมดยังไงไหว ก็ต้องเลือกของที่สำคัญที่สุดก่อน" พิเรนว่า อ๊ะ! ในที่สุดก็เผยออกมาแล้วว่า เห็น Mac สำคัญกว่า Pc ..... อย่างนี้ต้องขยาย ยยยยย ด้วยการ์ตูนล้อ  ภาพโต๊ะทำงานของนายพิเรนที่ไปโพสอวดไว้ใน FB. จะเห็นว่ามีตั้งสามจอ มีทั้ง Mac และ Pc ไม่พอยังมีเจ้า iPad อีก เวลาทำงานพี่แกจะลากงานข้ามจอไปมา เวียนหัวแท้ โดนภัยน้ำท่วมซะบ้างก็ดี จะได้สำนึกเห็นว่าทำงานด้วย Macbook อย่างผมมันคล่องตัวกว่าเยอะ  ที่มาของห่วงยางที่พิเรนนั่งนี้มาจาก การที่เขาไปปรามาสเพื่อนๆว่าจะขี้ตระหนก เที่ยวได้รีบเอารถไปจอดทำไมน้ำยังไม่มาซักหน่อย ถึงมาเขาก็ไม่กล้ว เพราะเตรียมห่วงยางไว้แล้ว พร้อมโพสรูปห่วงยางประกอบด้วย ภาพการ์ตูนนี้ผมวาดและลงสีจากแอพฯใหม่ที่ผมเพิ่งไปโหลดมาชื่อ ArtRage http://itunes.apple.com/th/app/artrage/id391432693?mt=8 ซื้อตอนลดราคา 1.99$ ตอนนี้ขึ้นราคาเป็น 6.99 $ แล้ว เพิ่งซื้อมาหมาดๆเลยต้องลองของใหม่ซะหน่อย  นี่เป็นหน้าตาของแอพฯ จะเห็นว่าทำงานได้หลายเลเยอร์แบบแอพฯ ArtStudio, SketchBook Pro, หรือ Sketch Club ที่ได้กล่าวไว้แล้วในบทก่อนๆ แต่แอพฯนี้มีความเก่งอยู่ที่มีอุปกรณ์ให้เลือกใช้หลายอย่างดี ทั้งดินสอ ปากกา สีน้ำ สีน้ำมัน สีเมจิก Air Brush พอปาดลงไปก็พบว่า ลายเส้นสีเหมือนใช้ของจริงมาก ภาพนี้ผมลองเล่นซะทุกอุปกรณ์เลย ซ้ำยังไม่คุ้นกับโปรแกรม ภาพเลยออกมาเละเทะหน่อย จริงๆแล้ว เรื่องการวาดจากแอพฯ Sketch Club ในบทที่แล้วค้างไว้ผมยังเล่าไม่เสร็จเลย แต่ก็ดันเอาภาพการ์ตูนล่าสุดมาปาดเล่าเสียก่อน เพราะเห็นว่ามันทันเหตุการณ์ดี ก็ขอให้ท่านผู้อ่านทำใจหน่อย เพราะจะบอกอะไรให้ในทุกเรื่องของ iPad ที่ผมเล่ามาในกระทู้นี้ ไม่ว่าจะเป็น iPad Photo การจัดการรูป , iPad Drop box ,iPad Cartoon ยังไม่มีเรื่องใดเลยที่ผมเล่าจบ วันดีคืนดี โอกาสเหมาะก็จะขุดมาเล่าต่อ

iPad Share Location ใช้ iPad ส่งตำแหน่งที่อยู่ของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ

iPad Share Location ใช้ iPad ส่งตำแหน่งที่อยู่ของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ ในยามหน้าสิ่วหน้าน้ำนี้ ขอแทรกเรื่องการใช้ iPad ในการส่งตำแหน่งที่ตั้ง เผื่อเหตุฉุกเฉินต้องขอความช่วยเหลือในยามน้ำท่วม โดยเฉพาะคนที่อยู่บ้านลึกๆ ซับซ้อน ไม่มีเวลาอธิบาย สามารถส่งตำแหน่งใน Google Map ให้เพื่อนหรือคนอื่นแจ้งหน่วยมารับได้ถูกที่    เปิดแอพฯ Maps แอพฯนี้ไม่ต้องโหลดเพราะมีมาให้พร้อมอยู่แล้วเวลาซื้อ iPad มา  จะปรากฎแผนที่ที่เราอยู่ จุดสีน้ำเงินวูบๆ นั้นคือจุดที่เรายืนอยู่ให้แตะที่จุดนี้จะมีหน้าต่างให้เลือก  Share Location ปุ่มล่างกลาง    จะมีหน้าต่างให้เลือกว่าจะส่ง Email หรือ Tweet บอกเพื่อนๆ    พิมพ์ข้อความตามสะดวก อ้อสำหรับคนที่ยังไม่ได้อัพเดตเป็น iOS5 จะส่งอีเมลได้เท่านั้นไม่สามารถ Tweet ได้  สิ่งที่แทบไม่มีใครเตือนเลยแต่ผมว่าสำคัญมากในกรณีที่ถูกตัดไฟ นั้นก็คือ ที่ชาร์ตโทรศัพท์ฉุกเฉิน แบบที่ไม่ใช้ไฟฟ้าแต่ใช้ถ่าน AA เพราะแม้แทบไม่ได้เตรียมตัวอะไร แต่ถ้ามีโทรศัพท์ก็สามารถโทร หรือส่งตำแหน่งขอความช่วยเหลือได้    ใน iPhone ก็สามารถ Share location ได้เช่นเดียวกับ iPad ครับ

Black comedy photo Ayutthaya Flood 2011 ภาพตลกร้าย! จากการไปแจกถุงยังชีพน้ำท่วมอยุธยา2554

ตลกร้าย! หนึ่ง ใบปิดน้ำน้อยช่วยกันหน่อย  ตลกร้าย! สอง ใบปิดขอน้ำทำนา หน้าหน่วยงานเกี่ยวกับน้ำแห่งหนึ่ง  ช่วยกันขนถุงลงเรือ  กำนันอ้อ กับสารวัตรตำบล ได้ถุงยังชีพสองร้อยถุง กับเรือใหม่หนึ่งลำ อย่าคิดว่าพายง่ายๆนะครับ ลองดูน้ำส่วนไกลออกไปจะเห็นว่าไหลเชี่ยวมาก ไม่ใช่น้ำท่วมธรรมดาแบบที่เราเคยเห็นในกรุงเทพ

สัประยุทธ์ การ์ตูน บนยุทธภพ Facebook จาก iPad ตอน 3

สัประยุทธ์ การ์ตูน บนยุทธภพ Facebook จาก iPad ตอน 3 คุณพิเรน เขียนล้อเลียนผมเป็นการ์ตูนสามช่อง มีคำพูดบ้าๆบอๆ ดึงดูดเพื่อนให้คลิกมาดูพากันขบขัน บ้างก็อ้อนให้ช่วยสอนวาดการ์ตูนให้หน่อย พอตั้งตัวได้ผมก็ตอบโต้ทันที แต่ผมไม่ได้ใช้แค่แอพฯเดียวในการวาดการ์ตูนและทำการ์ตูนช่องหรอกนะ เพราะ iPad เขามีแอพฯสำหรับทำการ์ตูนช่องอยู่แล้ว ไม่ใช่มีแค่แอพฯเดียว มีหลายแอพฯให้เลือกเสียด้วย ว่าแล้วก็คิด Concept ให้พิเรนร้องเพลงดีกว่า แต่ไหนๆจะให้ร้องเพลงแล้วร้องคนเดียวคงไม่สนุก เอาเพื่อนอีกสองคนที่เป็นตัวเป้งๆใน Facebook มาร่วมร้องดีกว่า สองคนที่ได้รับการคัดเลือกให้มาร่วมร้องกับคุณพิเรนคือ คุณสะมะ และคุณชิสา การที่ผมแท็กรูปการ์ตูนไปให้สองคนนี้นั้นไม่ต่างกับการทิ้งระเบิดปรมาณู เพราะสองคนนี้รวมทั้งคุณพิเรนด้วยจัดว่าเป็นขาใหญ่ ฮอตฮิต ใน Facebook มีเพื่อนคอยติดตามดูรูปคนละหลายร้อยคน การ์ตูนช่องด้านบนนี้ ผมใช้แอพฯ Strip Designer ในการสร้างครับ http://itunes.apple.com/th/app/strip-designer/id314780738?mt=8 ส่วนการ์ตูนช่องอันนี้ใช้แอพฯ ComicBook! ครับ http://itunes.apple.com/th/app/comicbook!/id436114747?mt=8 ไหนๆต้องลงทุนทำการ์ตูนแล้ว เขียนบทความประกอบไปด้วยดีกว่า บทความนี้เขียนเพื่อช่วยเพื่อนอีกคนหนึ่งคือ คุณสุธี ขายอาหารเสริม เรียกว่า ยิงนัดเดียวได้นกหลายตัวเลย การ์ตูนประกอบบทความนี้มีชื่อเรื่องว่า......"ถึงเพื่อนผู้กินเลือดตัวเอง" เรื่องนี้ผมได้โพสไว้แล้วตั้งแต่ปะทะกับพิเรนเมื่อต้นปี  คลิกไปดูตาม Link เลยครับ http://ekfengshui.blogspot.com/2011/03/dear-friends-who-eat-your-own-blood.html อย่างที่เกริ่น คุณพิเรนพลาดที่ติดนิสัยจากคอมพิวเตอร์ใช้แค่แอพฯเดียวในการทำงาน แต่นิสัยของ iPad นั้นควรใช้หลายแอพฯในการชิ่งส่งต่องานกัน และแอพฯที่ผมใช้วาดการ์ตูนก่อนส่งต่องานมาทำในแอพฯการ์ตูนช่องนั้น ผมยังไม่ได้บอกเลย จะเป็นแอพฯอะไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป

สัประยุทธ์ การ์ตูน บนยุทธภพ Facebook จาก iPad ตอน 2

สัประยุทธ์ การ์ตูน บนยุทธภพ Facebook จาก iPad ตอน 2  อันที่จริงแอพฯที่พิเรนใช้วาดการ์ตูนส่งมาให้ผมนั้น จัดได้ว่าเป็นแอพชั้นเทพ เปรียบได้กับคัมภีร์เก้าอิมจากมังกรหยก หรือ คัมภีร์ทานตะวัน จากเดชคัมภีร์เทวดา เมื่อผู้มีวรยุทธ์สูงได้พลังวิชาชั้นยอดทำไมยังจุดอ่อนอีกเล่า ArtStudio for iPad ถ้าตามไปดูที่ appstore จะพบว่าแอพนี้ได้คะแนนสูงมาก สี่ดาวครึ่งเต็มห้าดาว และเวลาผมไปเปิดหนังสือต่างประเทศแอพฯนี้ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็น Best ของแอพด้านงานศิลป์เลยทีเดียว (ลองเปิดดูสองเล่ม ก็ให้แอพนี้ยอดเยี่ยมทั้งสองเล่ม) http://itunes.apple.com/th/app/artstudio-for-ipad-draw-paint/id364017607?mt=8 ภาพนี้เป็นแปลนร้านอาหาร ผมใช้กระป๋องเทสีลงไปในแปลน สีจะเว้นเฟอร์นิเจอร์ให้โดยอัตโนมัติ การทำงานของแอพนี้จะทำงานเป็นเลเยอร์ แต่ละเลเยอร์สามารถปรับแสง สี ได้แบบโปรแกรม Photoshop ในคอมพิวเตอร์ ภาพนี้ลองใช้ Filter จะเห็นว่ารูปแบบการทำงานมันคือ Photoshop บน iPad นั่นเอง แต่ราคาตอนผมซื้อแค่ 0.99 $ หรือสามสิบบาท ยอดเยี่ยมขนาดนี้ทำไมยังแพ้อีก จุดอ่อนอยู่ที่กับดักของความเก่ง ความเก่งกาจทางด้านคอมพิวเตอร์ของพิเรนทำให้พิเรนไปยึดติดนิสัยการทำงานบนคอมพิวเตอร์มาใช้ใน iPad ซึ่งนิสัยของคอมพิวเตอร์กับนิสัยของ iPad นั้นแตกต่างกัน จริงๆอยากเรียกว่า  "สันดาน"  แต่มันซ้ำกับหนังสือ "รู้ทันสันดาน Tense" อันนี้ก็เช่นเดียวกัน การประมือครั้งนี้อยู่บนเวที iPad เราต้อง รู้ทันสันดาน iPad ด้วย รู้ๆกันอยู่ว่าหัวสมองของ iPad นั้นเล็กกว่าคอมพิวเตอร์ ดังนั้นแอพฯแต่ละแอพฯจะมีขนาดเล็กกว่าโปรแกรมในคอมพิวเตอร์มาก การจะทำงานสักชิ้นหนึ่ง บางครั้งผมต้องใช้ สี่ถึงห้าแอพฯ ส่งงานชิ่งต่อกัน ประหนึ่งทีมฟุตบอลส่งชิ่งบอลอย่างสวยงามและราบรื่น ซึ่งต่างจากนิสัยบนคอมพิวเตอร์ซึ่งแต่ละโปรแกรมจะมีขนาดใหญ่ ซับซ้อนกว่า ซ้ำยังอีโก้สูงอีกด้วย เพราะล้วนกำเนิดมาจากค่ายยักษ์ใหญ่ทั้งนั้น เราจึงมักทำงานชิ้นหนึ่ง บนโปรแกรมเดียว หรือทำให้เสร็จบนโปรแกรมนั้นแล้วค่อยส่งต่อไปอีกโปรแกรมหนึ่ง การจะไปชิ่งชิ้นงานไปมาเหมือนการชิ่งบอลนั้นทำได้ แต่ยาก ArtStudio นั้นจัดได้ว่าเป็นแอพฯที่ซับซ้อนมีเครื่องมือการทำงานที่เยอะและครอบคลุม จึงไม่ได้แปลกใจที่คนเก่งอย่างพิเรนและพวกนักวิจารณ์ฝรั่งที่มีทักษะทางคอมสูงจะโปรดปรานเทคะแนนให้แอพฯนี้ แต่งานนี้คือ การเขียนการ์ตูน เครื่องมือการทำงานที่สำคัญที่สุดคือ ลายเส้นปากกา ส่วนการปรับสีหรือ Filter ต่างๆนั้นเป็นเรื่องรอง Artstudio อาจเก่งงานศิลป์โดยรวม เหมือนคนที่ได้เกรดเฉลี่ยที่หนึ่งของห้อง มิได้หมายความว่าเขาจะได้ที่หนึ่งทุกรายวิชา วิชาเลข วิชาสังคมเขาอาจจะได้ที่สองที่สามก็ได้ งานนี้พิเรนพลาดเสียแล้ว พูดมาถึงตรงนี้คนที่ใช้ iPad อยู่ต้องนึกถึง SketchBook Pro fro iPad เป็นแน่ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นโปรด้านลายเส้นสเก็ตช์ ซ้ำยังถือกำเนิดจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Autodesk แม้ทางด้านศิลป์โดยรวมเป็นรอง ArtStudio เพราะไม่สามารถปรับแสงสีและฟิวเตอร์ในแต่ละเลเยอร์แต่เรื่องลายเส้นการวาดไม่เป็นรองแน่ http://itunes.apple.com/th/app/sketchbook-pro-for-ipad/id364253478?mt=8 ไปดูที่แอพฯสโตร์จะเห็นว่า ได้คะแนน สี่ดาวครึ่ง เหมือนกัน และนี่เป็นภาพของคนวาดการ์ตูนมือโปรที่เขาใช้แอพฯ SketchBook Pro fro iPad วาด เทพมากๆ ภาพจากเว็บนี้ครับ http://mika-chai.exteen.com/20110911/ipad แต่ จะบอกอะไรให้ ผมไม่ได้ใช้แอพฯนี้ในการวาดการ์ตูนพิเรนหรอก เพราะผมเป็นแค่นักวาดสมัครเล่น ไม่คู่ควรกับแอพฯมือโปรเขาหรอก ผมจะใช้แอพฯอะไรมาประมือด้านการ์ตูนกับพิเรน และ ทำไมผมจึงไม่เลือกใช้แอพฯ SketchBook Pro ซึ่งก็เห็นๆอยู่แล้วว่าเขาทั้งเก่ง ทั้งโปร ซ้ำมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ยังมีแอพฯที่เทพกว่านี้อีกหรือ โปรดติดตามตอนต่อไป

สัประยุทธ์การ์ตูนบนยุทธภพ Facebook จาก iPad

สัประยุทธ์ การ์ตูน บนยุทธภพ Facebook จาก iPad ค่ำวันหนึ่งระหว่างละเลียดเช็คอีเมล ก็พบว่านายพิเรน(เพื่อนคนเดียวกันจากตอน พิเรนตัดใจตัดซิมใส่ iPad) แท็กรูปมาให้ทาง Facebook เมื่อลองไปเปิดดูก็พบว่า นายพิเรนวาดการ์ตูนล้อเลียนผมจาก iPad แล้วโพสลงกระดานเผยแพร่ให้เหล่าผองเพื่อนได้ขบขัน (พิเรนมันวาดเป็นซีรีย์สามภาพ มีคำพูดด้วย แต่ผมขอลงแค่รูปเดียวเพื่อความเหมาะสม) "หนอย พิเรนมันจะย่ามใจมากไปแล้ว คิดว่าตนเองมีมืออยู่คนเดียวเรอะ" อันว่านายพิเรนนั้นมีฝีมือทักษะทางคอมพิวเตอร์อย่างร้ายกาจ ในหมู่เพื่อนทั้งหมดไม่มีใครเก่งคอมพิวเตอร์เกินเขา เปรียบได้กับ อึ้งเอี๊ยะซือ มารบูรพา จากเรื่องมังกรหยก หรือ ตงฟางปู๋ไป้ บูรพาไม่แพ้ จากเรื่องเดชคัมภีร์เทวดา ยากที่ใครจะต่อกรกับเขาได้ แต่นี่มัน iPad ซึ่งมีเวทีที่ต่างกับคอมพิวเตอร์ การที่เขาคิดว่าเป็นหนึ่งในเวทีคอมพิวเตอร์แล้วย่ามใจลงมาท้าประลองในเวที iPad นั้นเขาจะต้องเสียใจในไม่ช้า "ได้เลย ประเดี๋ยวจะจัดหนัก ชุดใหญ่ให้" ได้ผล เมื่อพิเรนเห็นภาพการ์ตูนตัวเอง ทาปากแดง ก็ถึงกับเต้นด้วยความงงงวย "เอ็งใช้ แอพฯอะไรวาดการ์ตูนฟ้ะ" เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป ปล.ลองพิจารณาการ์ตูนสองรูปนี้จะพบว่า การ์ตูนที่พิเรนวาดติดพื้นหลังกระดาษขาวสี่เหลี่ยมมาด้วย แต่ที่ผมวาดนั้น ไม่มีฉากหลังกระดาษขาว นับว่าวรยุทธของพิเรนใน iPad ด้อยกว่าผมหนึ่งกระบวนท่า แต่ยัง ยังไม่จบ

Journey to the toilet in China 5 ท่องไปตามห้องส้วมเมืองจีน 5

 

Journey to the toilet in China 5 ท่องไปตามห้องส้วมเมืองจีน 5 ความตอนที่แล้ว ผมยังเขียนอยู่เลยว่า การมาเมืองจีนครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของอาตั่วกู๋ นึกไม่ถึงเลยว่ากำลังจะเป็นความจริง เพราะตอนนี้อาตั่วกู๋กำลังนอนไม่ได้สติมาเกือบเดือนแล้ว จากการที่เส้นเลือดในสมองแตก ดังที่เคยเล่าให้ฟังในกระทู้อื่นๆ ความตั้งใจแรกผมจะเขียนเรื่องห้องน้ำเมืองจีนและแทรกเรื่องการเยี่ยมญาติประกอบไปบ้างพอไม่ให้เลี่ยน แต่เขียนไปเขียนมา คงต้องเล่าเรื่องประสบการณ์การเยี่ยมญาติควบคู่กันไปด้วย เพราะแฟนคลับผู้ทรงอิทธิพลร้องขอมา เป็นใครไปไม่ได้นั่นก็คือ. อาม้า นั่นเอง หลังจากเยี่ยมญาติฝ่ายยาย(อาหวั่วม่า) ไปแล้ว คราวนี้ก็มาเยี่ยมญาติฝ่ายตา (อาหวั่วกง) กันบ้าง ซึ่งญาติฝ่ายยายกับฝ่ายตาแม้จะอยู่เมืองจีนใกล้ๆกันแต่ไม่รู้จักกันหรอกเพราะอาหวั่วม่ากับอาหวั่วกงมาเจอกันที่ประเทศไทย อย่างที่เล่าในความตอนก่อนว่าอาหวั่วม่ามาเมืองไทยเพราะสามีตาย อาหวั่วกงมาเมืองไทยด้วยสาเหตุที่ drama ไม่แพ้อาหวั่วม่า นี่ถ้าสร้างเป็นหนังผมคงเลี่ยนแล้วบ่นว่าทำไมบทหนังถึง build ให้รันทด drama เกินเหตุ ก่อนจากเมืองจีนอาหวั่วกงก็ไม่รู้ตัวเลยว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับไปเหยียบแผ่นดินเกิดอีกแล้ว ก่อนเดินทางไกลได้ลาน้องสาวว่า...เฮียไปไม่นาน...เดี๋ยวจะกลับมาหา. คำว่าเดี๋ยวของหวั่วกงนั้นกินเวลาชั่วชีวิต วันที่อาม้าไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีนครั้งแรกเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้น. น้องสาวของอาหวั่วกงที่ผมต้องเรียกว่าอาเหล่าโกวนั้น บอกกับอาม้าว่า ฉันรอการกลับมาของพี่ชายมา 50 ปีแล้ว แต่พี่ชายไม่เคยกลับมาเลย หลังจากกลับจากไหว้เฮียงบู๋ซัวแล้วคณะเราก็ตรงดิ่งไปบ้านของอาเหล่าโกว หรือน้องสาวของคุณตาผม นี่คือบ้านของอาเหล่าโกวเป็นเรือนแถว ที่เห็นประตูทางเข้าสามประตูนั่น ไม่ใช่เป็นเจ้าของเดียว 1 ประตูต่อ 1 ครอบครัว เดินเข้าไปบ้านต้องคับแคบแน่นอนแต่กลับมีห้องครัวที่ใหญ่ ใช้ได้เลย ห้องครัวจะอยู่หน้าบ้าน. เมื่อเดินผ่านห้องครัวก็เจอห้องนอนเลย และแน่นอน "ไม่มีห้องน้ำ" อาเฮียเอี้ยงลิ้มก็ปรารถนาดีแสนมีน้ำใจ กลัวน้องจากเมืองไทยอย่างผมอยากจะเข้าห้องน้ำ สู้อุตส่าห์เดินไปสำรวจว่ามีห้องน้ำซ่อนอยู่หลืบใดบ้าง เมื่อพบเจอว่าเพื่อนบ้านของอาเหล่าโกวที่อยู่ด้านตรงข้ามมีห้องน้ำด้วยก็ดีใจ กวักมือเรียกผม. ชี้นิ้วพร้อมเรียกว่า. "แชะซ้อ". ผมนึกในใจ "อะไรหว่า แชะ แชะ หรือจะเรียกให้ไปถ่ายรูป อาเฮียบู๋ลิ้มน้องชายเฮียเอี้ยงลิ้มผู้เคยมาเมืองไทย ได้ยินเข้าก็ว่าใส่พี่ชายว่า "คนเมืองไทยเขาเรียกกันว่า กงซีล่ง ไปเรียกอย่างนั้นเขาไม่เข้าใจหรอก". พอได้ยินคำว่า กงซีล่ง ผมเข้าใจทันทีว่าอาเฮียเขาเรียกให้ผมไปเข้าห้องส้วม จริงๆแล้วตั้งแต่มาเมืองจีนนี่ความอยากเข้าห้องน้ำก็ลดลงไปกึ่งหนึ่งโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นสภาพบ้าน(ตามภาพบน)ก็รู้ได้ทันทีว่าห้องน้ำต้องแคบและมืดแน่นอน ก็เลยโบกมือปฏิเสธอาเฮียไป มานึกเสียดายภายหลังว่าน่าจะเข้าไปถ่ายรูปเก็บไว้ซักหน่อย ความที่บ้านอาเหล่าโกวทั้งแคบและมืด ผมก็เลยต้องยืนรออยู่ด้านนอกไป ถ่ายรูปสภาพหมู่บ้านไป แต่อาม้าบอกว่าให้เข้าไปในบ้านกิน "ไข่หวาน". ที่ลูกสะใภ้ของอาเหล่าโกวทำให้ ผมปฏิเสธแต่อาม้าบอกว่าต้องเข้าไปกินเพราะเป็นธรรมเนียม เมื่อเดินเข้าไปก็เห็นอาม้ากับอาตั่วกู๋นั่งประจำที่อยู่แล้วภายในบ้านของอาเหล่าโกว ที่ทั้งมืดและแคบ เพราะในฤดูหนาวจะหนาวมาก เขาเลยเจาะช่องหน้าต่างเล็กนิดเดียว ลองหยิบถ้วยไข่หวานที่วางบนโต๊ะมากินแค่คำเดียวก็ขยาดเพราะหวานสมชื่อ เมื่อไม่มีที่นั่งก็ต้องยืนกิน พลางมองไปรอบๆก็สะดุดตากรอบรูปเก่าๆกระจกมัวๆที่ติดผนัง มีเด็กวัยรุ่นห้าคนยืนเรียงตามอายุ "จ๊าก! นี่มันรูปเราห้าพี่น้องนี่นา ตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นด้วย มาติดอยู่นี่ได้ไงนี่" สรุปอาม้าเป็นคนส่งรูปลูกหลานที่เมืองไทยมาให้อาเหล่าโกวดู อาเหล่าโกวก็จัดแจงใส่กรอบรูปแขวนผนัง โดยที่พวกเราไม่รู้เลยว่ามีคนแก่ที่เฝ้ามองรูปเราจากชนบทอันห่างไกลในประเทศจีนมาเกือบยี่สิบปีแล้ว ภาพเหล่าบรรดาเพื่อนบ้านของอาเหล่าโกว ทุกคนอายุเกินแปดสิบทั้งสิ้น อาม่าที่ยืนอยู่ในภาพนี้อายุเก้าสิบกว่าแล้วแต่ยังแข็งแรงมากซ้ำยังพูดเก่ง พูดเร็วผิดคนแก่บ้านเรา พยายามอธิบายให้ผมฟังว่าอาเหล่าโกวของผมดีใจสุดๆ ที่หลานจากเมืองไทยจะมาเยี่ยม ออกมารอตั้งแต่เช้า เดี๋ยวก็ผุดลุกผุดนั่งชะเง้อคอรอ ซึ่งแกก็ได้รอพี่ชายมา 50 ปีจนมาเจออาม้าครั้งแรกเมื่อยี่สิบก่อน จึงเลิกรอพี่มารอหลานยุคอาม้าอีก ยี่สิบปี รวมแล้ว 70 ปี ปัจจุบันแกอายุเกือบเก้่าสิบปีแล้ว คนซ้ายอาเหล่าโกววัย 87 กับขวาเพื่อนบ้านวัย 92 ที่ยากจนไม่มีแม้ห้องส้วมใช้ ออกมาส่งหลานจากเมืองไทยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าแต่สุขภาพร่างกายกลับแข็งแรงน้อยกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ

Posted with Blogsy

Dropbox iPad ยาแก้อาการเสพติด flash drive และ ช่วยติดตามการทำงานของทีมงานแบบ realtime

Dropbox iPad ยาแก้อาการเสพติด flash drive และ ช่วยติดตามการทำงานของทีมงานแบบ realtime 

การยึดติดของคนเรานั้นมันฝังลึกจริงๆ บางคนยึดติด keyboard ของคอม PC. ในขณะที่บางคนเป็นประเภทเสพติด Flash Drive (หรือที่หลายคนเรียก Handy Drive, Thumb Drive, USB Drive) การที่ iPad ไม่มีอุปกรณ์ประเภทนี้ถึงกับอึ้ง..จะทำงานทำการอย่างไรล่ะทีนี้

นับเรื่องกังวลสุด classic ของคนที่จะซื้อ iPad เรื่องหนึ่งคือการต่อออก flash drive ไม่ได้ หรือต่อได้ก็ต้องมาเจลเบรค วุ่นวายอีกยกหนึ่ง

ผมมานั่งนึกๆว่าดูว่าวันวันหนึ่งผมจะใช้ flash drive ใส่ file อะไรกับ iPad บ้าง.......รูปภาพ. หมดปัญหาเพราะสามารถแชร์และเก็บรูปใน picasa, facebook ,photo bucket อยู่แล้ว ที่เหลือก็เป็นพวก file Excel, PowerPoint ,Autocad ที่จะต้องรับจากทีมงาน

อันที่จริงสิ่งที่ได้เปรียบมหันต์ของ iPad คือการต่อ net ได้ทุกที่ทุกเวลา แล้วไฉนเราจึงต้องไปยึดติดกับอุปกรณ์ offline อย่าง flash drive อีกเล่า

การแชร์ไฟล์แบบ online นั้นเหนือชั้นกว่่าการ copy file แบบ flash drive มากตรงที่ข้อมูลไฟล์ที่รับจากน้องทีมงานนั้นจะ update แบบ realtime!

ลองมาดูผังการใช้งาน dropbox ของผมกัน






นอกจากแชร์ไฟล์ไปมาระหว่างอุปกรณ์ macbook<------>iPad------>iPhone(ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้ Android) ของผมแล้ว ผมยังต้องรับส่ง ตรวจงานของทีมงาน ซึ่งสมัยก่อนใช้วิธี flash drive(กรณี MacBook) หรือว่าส่ง mail ซึ่งต้องรอพิมพ์งานนั้นเสร็จแล้วจึงค่อยส่งข้อมูลมา เช่น ใบเสนอราคา บ่อยครั้งผิดแล้วผิดอีก ต้องส่ง mail ซ้ำหลายรอบ จนmail รกไปหมด

Computer PC เครื่องที่1 ใช้ account dropbox ฝ่ายบัญชี มีหน้าที่ลงต้นทุนโครงการ ผมจึงสั่งให้นำ folder ต้นทุนปี 54 แชร์กับ account dropbox ส่วนตัวของผม ซึ่งข้อมูลต้นทุนจะเคลื่อนไหวแทบจะทุกชั่วโมง ทันทีที่น้องทีมงานkey ข้อมูลต้นทุน dropbox จะซิงค์ข้อมูลกับเครื่อง MacBook ,iPad ,iPhone ของผมโดยอัตโนมัติทำให้ผมตรวจสอบต้นทุนได้ทันท่วงที แม้จะอยู่นอก office

Computer PC เครื่องที่สอง. ใช้ account dropbox ฝ่ายจัดซื้อ ทำหน้าที่ออกใบสั่งซื้อ และพิมพ์ใบเสนอราคา ซึ่งผมสั่งให้ซิงค์เฉพาะข้อมูลของปี 54 ซึ่งยังเคลื่ิอนไหวอยู่ ส่วนปีเก่าๆไม่ต้องเพราะนิ่งแล้ว มิเช่นนั้นจะสิ้นเปลืองเนื้อที่ dropbox

Computer PC เครื่องที่สาม ใช้ account dropbox ฝ่ายออกแบบ ซิงค์ข้อมูลกับ dropbox ของผมกับไฟล์ present PowerPoint ,และ ไฟล์เขียนแบบ auto cad

ทีมงานทั้งสามเครื่องเมื่อมีการทำงานเกิดขึ้น dropbox จะซิงค์ข้อมูลมาที่ account ส่วนตัวของผม แต่ทั้งสามเครื่องจะไม่เห็น folder งานของกันและกัน เพราะแยกคนละ account แต่ถ้าฝ่ายบัญชีมีการ key ข้อมูลสองเครื่องจะใช้ account dropbox เดียวกันเพื่อใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน



อันนี้เป็นหน้าจอ Dropbox ที่ผมเปิดจาก app ใน iPad จะเห็น folder สัญลักษณ์คนจับมือกัน อยู่ 3 folder คือ 1.ต้นทุน ที่มาจาก PC.บัญชี 2. BOQ. มาจากเครื่องของจัดซื้อ 3. Photo Card มาจากเครื่องของฝ่ายออกแบบ


สรุปคือ Dropbox เป็นบริการซิงก์และฝากไฟล์แบบออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ฝากอยู่ได้จากทุกๆ ที่ที่มีอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้งานได้ติดตั้งตัวโปรแกรมและจับไฟล์ต่างๆ โยนเข้าไปไว้บนโฟลเดอร์ที่ Dropbox สร้างแล้วมันก็จะถูกดึงไปไว้บนเซอร์เวอร์ของ Dropbox โดยทันที ทีนี้ผู้ใช้งานจึงสามารถเข้าถึงโฟลเดอร์นี้ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่ได้ติดตั้งโปรแกรม Dropbox ไว้

Dropbox ไม่ยึดติดกับระบบปฎิบัติการใดๆ ใช้ได้ทั้ง Windows, Mac, Linux , iPhone, iPad ไม่ว่าคุณใช้แบบไหนก็ควรมีติดไว้เป็นยาสามัญประจำเครื่อง

นอกจากนั้น ถ้าไม่สะดวกที่จะติดตั้งโปรแกรม ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ฝากไว้ผ่านทางเวบไซต์ Dropbox ได้โดยตรงอีกด้วย และที่สำคัญก็คือ ถ้าในขณะที่เรากำลังอัพโหลดไฟล์เข้าโฟลเดอร์ Dropbox อยู่แล้วอินเทอร์เน็ตเกิดหลุดขึ้นมา ทางโปรแกรมจะทำการ resume การอัพโหลดให้ใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

ถ้าเห็นว่าบทความนี้พอมีประโยชน์ และเริ่มสนใจ dropbox ก็รบกวนสมัครตาม link นี้เลยนะครับ 
http://db.tt/wm0kswV
สมัคร Dropbox คลิกที่นี่ 



เมื่อคุณสมัครเสร็จและลงโปรแกรม dropbox บนเครื่อง computer ของคุณ ผมและคุณจะได้พื้นที่เพิ่มคนละ 250 MB จากพื้นที่ 2 GB เดิมที่ dropbox ให้ฟรีมาอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอยากได้พื้นที่เพิ่มอีกก็ส่งเมลล์ หรือ link ชักชวนเพื่อนมาสมัคร dropbox ต่อๆไป เขาก็จะให้ค่าแนะนำครั้งละ 250 GB  (รู้สึกเหมือนชาวขายตรงตงิดๆ) แต่สูงสุดไม่เกิิน 8 GB ถ้าอยากได้มากกว่านั้นต้องเสียเงินครับ สำหรับชุมชนชาว iPad 8 GB ก็เหลือเฟือแล้ว  

บทความตอนต่อของ Dropbox

iPad Dropbox2 แอพฯ Dropbox ใน iPad ยินดีต้อนรับทุกไฟล์

iPad Dropbox3 ทำงานร่วมกันแม้จะอยู่ไกลกัน

AppShopper ช่วยเราตัดสินใจช้อนซื้อ หุ้น เอ๊ย ซื้อ app iPad ถูกจังหวะ

AppShopper ช่วยเราตัดสินใจช้อนซื้อ หุ้น เอ๊ย ซื้อ app iPad ถูกจังหวะ 

"น้าแมว" คอบอลแฟนหงส์แดงเก่าแก่ ตั้งแต่หงส์ยังรุ่งเรืองยุค 80 โน้น เป็นสาวก iPad รายล่าสุด หลังจากแนะนำ app ใช้งานแล้ว ผมก็ไม่พลาดที่จะแนะนำเกมส์ฟุตบอลยอดสุดมันส์ใน iPad นั่นคือ FIFA 11 for iPad

http://itunes.apple.com/th/app/fifa-11-by-ea-sports-for-ipad/id408895202?mt=8

แต่เมื่อจะเข้าไปซื้อใน app store ก็แทบตกเก้าอี้ เพราะพี่แกขึ้นราคาจากตอนที่ผมซื้อคือ 0.99 $ เป็น 9.99$ หรือขึ้นไป 10 เท่า

ใครจะไปนึกว่าราคา app ใน iPad ผันผวนเสียยิ่งกว่าหุ้นเมืองไทยซะอีก

ลองไปเช็คราคากับโปรแกรม AppShopper.

http://itunes.apple.com/th/app/appshopper/id387037496?mt=8



ช่องราคาจะเห็นว่า 0.99 $ ถูกขีดออกขึ้นไปเป็น 9.99 $ หรือสามร้อยกว่าบาท! เลื่อนมาข้างล่างเพื่อตรวจสอบดูประวัติความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น เอ๊ย ราคา App



จะเห็นว่าเพิ่งขึ้นราคาไปเมื่อวานวันที่ 6 กรกฎาคม นี้เอง โธ่ซื้อช้าไปวันเดียว น้าแมวต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเลยเรอะ  ทำใจลำบากจริงๆ (แต่ภายหลังน้าแมวก็ไม่ต้องจ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะใช้ account ผมโหลดให้ ไว้จะกล่าวในบทต่อๆไป)



อันนี้คือหน้าจอแรกของโปรแกรม AppShopper ที่ช่วยให้เราหา App ที่ต้องการ สามารถกำหนดตัวเลือกว่า เป็น App ประเภทไหน ฟรี ,เสียเงิน หรือกำลังลดราคา ช่วยให้เราไม่พลาดช้อนซื้อ App ในเวลาสำคัญ ที่เขา Sale

ไม่มี net ก็ดูรูป Facebook & Picasa ได้ และ ลืมๆมันไปบ้างก็ได้นะคุณ cache

ไม่มี net ก็ดูรูป Facebook & Picasa ได้ และ ลืมๆมันไปบ้างก็ได้นะคุณ cache 

ความจุของหัวสมอง iPad นั้นทุกตาราง GB ล้วนเป็นเงินเป็นทอง สังเกตจากราคา iPad 16 GB กับ 64 GB นั้นต่างกันพอควร แต่ถึงแม้เราจะซื้อแบบกำลังจุหัวสมองสูงสุด 64 GB. แต่มันก็ไม่พอยาไส้อยู่ดี โดยเฉพาะพวกรูปภาพนั้นกินพื้นที่นักแล  สำหรับการทำงานของผมนั้น iPad ถือมีอาวุธสำคัญเพราะเชื่อมต่อ net 3G ได้. ยืนถือดูรูป present ลูกค้าได้  ทำให้เราสามารถหยิบ iPad มาให้ลูกค้าดูภาพประกอบการโม้ของเราได้ แทบจะทุกที่ ทุกเวลา เพราะปฎิเสธไม่ได้หรอกว่า ภาพเพียงภาพเดียวแทนคำพูดนับพัน. บางครั้งเราไม่สะดวกในการหาสถานที่นั่งกาง notebook ได้เสมอไป บางครั้งต้องเดินตรวจงานไป คุยไป เปิดรูปให้ดูไป ทำให้ประหยัดเวลาใน present ให้ลูกค้าเห็นภาพไปได้เยอะ  การฝากรูปไว้ในเวปฝากรูปทำให้อาจเรียกได้ว่า iPad ของเรามีพื้นที่เก็บภาพแบบไม่จำกัด! 

ดังนั้นการใช้ iPad ให้เกิดประโยชน์เราควรเปลี่ยนนิสัยการเก็บรูปใหม่ แทนที่จะหมกฝังดินใต้พิภพอยู่ใน folder ซ้อน folder ใน Hard disk  
คุ้ยมันจัดหมวดหมู่แล้วอพยพ upload มันขึ้นบนอากาศบ้างเถิด  


แต่ถ้าเกิดวันนั้น net ล่ม สถานที่นัดลูกค้าอับสัญญาณ เปิดภาพให้ลูกค้าดูไม่ได้ เรามิอับจนตายน้ำตื้นเอาง่ายๆดอกหรือ   


ช้าก่อนท่าน ด้วยระดับจอมยุทธ์ระดับเรา ไม่ตายง่ายๆขนาดนั้นหรอก  เพราะ app web album for iPad (Picasa) และ app PhotoFresh (Facebook) สมองมันดี เขาสามารถจำรูป ระลึกชาติ ก่อนที่ net จะหลุดไป ได้ถึง 28,471 รูป     

ดังนั้นถ้ารู้ว่าวันนี้ต้อง present ลูกค้า เราก็เปิด album ลูกค้ารายนั้นให้เจ้า cache มันท่องจำให้ขึ้นใจก่อน แล้วค่อยออกนอกสถานที่ไปพบลูกค้า คราวนี้แม้วันนั้นจะอับโชค net หลุด เจ้า cache ก็จะระลึกชาตินำภาพใน folder นั้นให้ลูกค้าชมทันที  

ถึงตรงนี้บางท่านชักเริ่มสงสัยว่า เจ้า cache คือใคร

Cache คือหน่วยความจำสำรอง ที่ใช้จำข้อมูลบางอย่างเพื่อที่เราจะสามารถหยิบมาได้ทันที  ด้วยหัวสมองอันน้อยนิดของเจ้า iPad ความจำของเจ้า  cache ก็จะน้อยไปด้วย ดังนั้นการที่ app web album และ PhotoFresh สามารถจำภาพมาดู offline ได้ก็ไม่ต่างกับดาบสองคม

เพราะบางท่านไม่รู้ข้อนี้ปล่อยให้เจ้า cache มันจำสเปะสปะ จำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องถึงหลักหมื่นภาพหรอกแค่หลักพันภาพมันก็สุดจะทานทน App ก็จะเด้งออก เวลาจะเปิดทีต้องปิด app อื่นๆที่เปิดค้างไว้ทั้งหมดก่อนจึงจะเปิดได้  พอเปิดได้ก็จะโหลดช้ามาก ไม่รู้สาเหตุ พาลไปโทษเครื่องและ app

วิธีล้างความจำเจ้า cache นี้ง่ายมากๆ ไปที่ setting---> caching -----> refresh cache ตามภาพ



ในภาพนี้เราจะเห็นว่ามีปุ่มให้ตั้งค่า. Cache size ด้วยซึ่งผมตั้งให้ limit เจ้าcache มันจำไว้ที่ 1,054 หรือ 300 MB ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้สูงสุดถึง 28471 รูป แต่ผมไม่เคยลองถึงขนาดนั้นเพราะแค่นี้ก็เปลืองเนื้อที่พอแล้ว


ทีนี้เรามาตั้งต้นชีวิตกันใหม่ เราจะไม่ให้มันจำไปเรื่อยเปื่อย ทั้งภาพงานและภาพไร้สาระ อีกต่อไปด้วยการไปตั้งค่าที่ setting---->caching---->album cache setting เลือก account ที่เราจะไป set



ในภาพนี้ผมเลือกเปิด on ไว้ที่ album project งานที่จะ present ลูกค้า ซึ่งการเปิด on มีผลที่ cache มันจะจำ album นี้ไว้ตลอด แม้เราจะสั่ง refresh cache มันจะลบรูปความจำใน album อื่นๆออก แต่จะเลือกจำ album ที่เราเปิด on ไว้ ดังนั้นแม้ว่าจะอยู่ในที่ไม่มี net album สำคัญเราก็จะเปิดดูได้